รับผลิต vs ผลิตเอง เปรียบเทียบทางเลือกไหนคุ้มกว่าสำหรับธุรกิจคุณ ? -

เจ้าของธุรกิจและว่าที่เถ้าแก่ทั้งหลาย! กำลังชั่งใจอยู่ใช่ไหมว่าจะ “รับผลิต” หรือ “ผลิตเอง” ดี? บอกเลยว่านี่คือคำถามโลกแตกที่ไม่ว่าใครจะเริ่มธุรกิจก็ต้องเจอ! เหมือนยืนอยู่ตรงทางแยกว่าจะเลี้ยวซ้ายหรือขวาดี แต่ละทางก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย ล่อตาล่อใจไปหมด ไม่ต้องกังวลไป วันนี้เราจะมาเจาะลึกทุกซอกทุกมุม เปรียบเทียบแบบหมัดต่อหมัด ให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าแบบไหนเหมาะกับธุรกิจของคุณมากที่สุด!

รับผลิตดียังไง? ข้อดีที่คุณต้องรู้!

เจ้าของธุรกิจและว่าที่เถ้าแก่ทั้งหลาย กำลังชั่งใจอยู่ใช่ไหมว่าจะ รับผลิต หรือ ผลิตเอง ดี บอกเลยบทความนี้มีคำตอบ อ่านเลย

“รับผลิต” หรือที่คุ้นหูในชื่อ OEM (Original Equipment Manufacturer) พูดง่าย ๆ ก็คือการจ้างโรงงานอื่นผลิตสินค้าให้เรา โดยที่เราไม่ต้องลงทุนสร้างโรงงานเอง เหมือนจ้างมือโปรมาทำงานให้นั่นแหละ มาดูข้อดีกัน :

1. ประหยัดเงิน ประหยัดเวลา ไม่ต้องปวดหัว

ไม่ต้องลงทุนก้อนโต : ไม่ต้องทุ่มเงินสร้างโรงงาน ซื้อเครื่องจักร จ้างพนักงาน แค่มีไอเดียเจ๋งๆ ก็เริ่มได้เลย เหมาะมากสำหรับธุรกิจ SME หรือ Startup ที่ทุนยังไม่หนา
เริ่มขายได้ไว : ไม่ต้องเสียเวลาสร้างโรงงาน ผลิตสินค้า เพราะโรงงาน OEM เขามีทุกอย่างพร้อมอยู่แล้ว
ไม่ต้องบริหารจัดการการผลิต : ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโรงงาน ส่วนคุณก็โฟกัสกับการตลาด การขาย และการสร้างแบรนด์

2. เข้าถึงความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยี

โรงงาน OEM ส่วนใหญ่มักจะเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เช่น รับผลิตเครื่องสำอาง, รับผลิตอาหารเสริม, รับผลิตเสื้อผ้า ทำให้มั่นใจได้ในคุณภาพสินค้า
หลายๆ โรงงานมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งเราอาจจะไม่มีปัญญาซื้อเอง การจ้างผลิตจึงเหมือนเป็นการอัพเกรดสินค้าของเราไปในตัว

3. ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ตามใจ

ผลิตน้อยก็ได้ มากก็ดี : โรงงาน OEM ส่วนใหญ่รับผลิตทั้งจำนวนน้อยและจำนวนมาก ทำให้เราสามารถทดลองตลาดก่อนได้ หรือจะเพิ่มกำลังการผลิตก็ทำได้ง่ายๆ
เปลี่ยนสูตร ปรับดีไซน์ ก็ทำได้ : อยากลองสินค้าใหม่ๆ ปรับสูตร เปลี่ยนแพ็คเกจจิ้ง ก็คุยกับโรงงานได้เลย

รับผลิต ใช่ว่าจะดีเสมอไป… ข้อเสียที่ต้องระวัง!

ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ การ “รับผลิต” ก็มีข้อเสียเหมือนกัน มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง:

1. กำไรต่อหน่วยอาจน้อยกว่า

แน่นอนว่าเราต้องแบ่งกำไรส่วนหนึ่งให้กับโรงงาน ทำให้กำไรต่อหน่วยอาจน้อยกว่าการผลิตเอง
แต่ถ้าขายได้จำนวนมาก กำไรโดยรวมก็อาจจะมากกว่า เพราะประหยัดต้นทุนอื่นๆ ไปเยอะ

2. ควบคุมคุณภาพยากกว่า

เราไม่ได้ควบคุมกระบวนการผลิตเองทุกขั้นตอน จึงต้องอาศัยความน่าเชื่อถือและมาตรฐานของโรงงาน
ดังนั้นการเลือกโรงงาน OEM ที่ดีจึงสำคัญมาก!

3. เสี่ยงต่อการถูกลอกเลียนแบบ

หากสินค้าเราขายดี โรงงานอาจจะแอบเอาสูตรหรือดีไซน์ของเราไปผลิตขายเอง หรือขายให้กับเจ้าอื่น
ดังนั้น ควรทำสัญญาให้รัดกุม ปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของเรา

ผลิตเอง ควบคุมได้ทุกขั้นตอน!

“ผลิตเอง” ก็คือการสร้างโรงงาน ผลิตสินค้าเองทั้งหมด ข้อดีคือเราควบคุมทุกอย่างได้เอง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยอะไรหลาย ๆ อย่าง

1. ควบคุมคุณภาพได้เต็มที่

เราสามารถกำหนดมาตรฐานการผลิต เลือกวัตถุดิบ และตรวจสอบคุณภาพได้ทุกขั้นตอน
มั่นใจได้ว่าสินค้าของเรามีคุณภาพตรงตามที่ต้องการ

2. สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง

การผลิตเองช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ แสดงถึงความใส่ใจในคุณภาพและความพิถีพิถัน
สามารถสร้างเรื่องราว (Storytelling) เกี่ยวกับการผลิต เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า

3. กำไรต่อหน่วยสูงกว่า

ไม่ต้องแบ่งกำไรให้กับใคร ทำให้กำไรต่อหน่วยสูงกว่าการจ้างผลิต
แต่ก็ต้องแบกรับต้นทุนอื่นๆ เช่น ค่าโรงงาน ค่าเครื่องจักร ค่าแรงงาน

ผลิตเอง ก็มีความท้าทาย… ข้อเสียที่ต้องเจอ!

1. ลงทุนสูง ความเสี่ยงสูง

ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากในการสร้างโรงงาน ซื้อเครื่องจักร จ้างพนักงาน
หากขายไม่ดี ก็เสี่ยงขาดทุนหนัก

2. ใช้เวลานานกว่าจะเริ่มขาย

ต้องใช้เวลาในการสร้างโรงงาน ติดตั้งเครื่องจักร ฝึกอบรมพนักงาน ทดลองผลิต
อาจทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจ

3. ต้องมีความรู้ด้านการผลิต

ต้องมีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการผลิต การบริหารจัดการโรงงาน การควบคุมคุณภาพ
ไม่อย่างนั้นอาจจะเจอปัญหามากมายตามมา

ตารางเปรียบเทียบ รับผลิต vs ผลิตเอง แบบไหนเหมาะกับคุณ?

ปัจจัย	รับผลิต	ผลิตเอง
ต้นทุนเริ่มต้น	ต่ำ	สูง
ต้นทุนต่อหน่วย	สูงกว่า	ต่ำกว่า
การควบคุมคุณภาพ	ยากกว่า	ง่ายกว่า
ความยืดหยุ่น	สูง	ต่ำ
ความเสี่ยง	ต่ำ	สูง
ความเร็ว	รวดเร็ว	ช้า
การสร้างแบรนด์	ยากกว่า	ง่ายกว่า
กำไรต่อหน่วย	ต่ำกว่า	สูงกว่า

รับผลิตหรือผลิตเอง? ไม่มีคำตอบตายตัว!

สุดท้ายแล้ว การตัดสินใจว่าจะ “รับผลิต” หรือ “ผลิตเอง” ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น เงินทุน, ประสบการณ์, ความเสี่ยงที่รับได้, เป้าหมายทางธุรกิจ ไม่มีคำตอบที่ถูกต้องตายตัว

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ขอให้โชคดีกับธุรกิจของคุณ!

FAQ : คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ “รับผลิต” หรือ “ผลิตเอง”

นี่คือคำถามที่คนมักจะสงสัยเกี่ยวกับการ “รับผลิต” และ “ผลิตเอง” เราได้รวบรวมคำตอบมาให้แล้ว!

1. รับผลิต (OEM) เหมาะกับธุรกิจแบบไหน?

คำตอบ : การรับผลิตเหมาะกับธุรกิจที่ :

เพิ่งเริ่มต้น (Startup) ทุนน้อย ไม่อยากลงทุนสูงกับโรงงานและเครื่องจักร
ต้องการทดลองตลาด ผลิตสินค้าจำนวนน้อยเพื่อดูผลตอบรับก่อน
เน้นความรวดเร็ว ต้องการเริ่มขายสินค้าให้เร็วที่สุด
ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิต พึ่งพาความเชี่ยวชาญของโรงงาน OEM
ต้องการขยายกำลังการผลิต เพิ่มกำลังการผลิตได้ง่ายและรวดเร็ว โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มเองมากนัก
มีสินค้าหลายประเภท เช่น ธุรกิจเครื่องสำอาง อาจจ้างผลิตหลายๆโรงงานที่ถนัดต่างกัน

2. ผลิตเองเหมาะกับธุรกิจแบบไหน?

คำตอบ : การผลิตเองเหมาะกับธุรกิจที่ :

มีเงินทุนหนา พร้อมลงทุนสร้างโรงงาน ซื้อเครื่องจักร
ต้องการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด ควบคุมทุกขั้นตอนการผลิตได้เอง
เน้นสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง สร้างเอกลักษณ์และความแตกต่างให้กับสินค้า
มีสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง ต้องการเก็บสูตรการผลิตเป็นความลับ
มีแผนธุรกิจระยะยาวที่ชัดเจน มั่นใจว่าขายได้แน่นอน คุ้มค่ากับการลงทุน
มีความรู้และประสบการณ์ด้านการผลิต บริหารจัดการโรงงานและการผลิตได้

3. เริ่มต้นธุรกิจ ควรรับผลิตหรือผลิตเองดี?

คำตอบ : สำหรับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น “รับผลิต” มักจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะใช้เงินลงทุนน้อยกว่า ความเสี่ยงต่ำกว่า เริ่มต้นได้เร็วกว่า แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจและเป้าหมายระยะยาวด้วย หากมั่นใจว่าสินค้าขายได้แน่ๆ และมีทุนมากพอ การผลิตเองก็อาจให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าในระยะยาว

4. หาโรงงานรับผลิต (OEM) ที่ไว้ใจได้ยังไง?

คำตอบ : การหาโรงงาน OEM ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญมาก ควรพิจารณาจาก :

ประสบการณ์และชื่อเสียง เลือกโรงงานที่มีประสบการณ์ มีผลงานเป็นที่ยอมรับ
มาตรฐานการผลิต ตรวจสอบว่าโรงงานมีใบรับรองมาตรฐานต่างๆ หรือไม่ เช่น GMP, ISO
เทคโนโลยีและกำลังการผลิต ดูว่าโรงงานมีเครื่องจักรที่ทันสมัยและสามารถผลิตสินค้าได้ตรงตามความต้องการหรือไม่
การบริการ พูดคุยสอบถาม ดูการตอบสนอง และความใส่ใจของโรงงาน
ราคา เปรียบเทียบราคาจากหลาย ๆ โรงงาน
รีวิวจากลูกค้า หาข้อมูลเกี่ยวกับโรงงานจากรีวิวต่าง ๆ
เยี่ยมชมโรงงาน หากเป็นไปได้ ควรไปเยี่ยมชมโรงงานเพื่อดูสภาพการผลิตจริง (ใส่ลิงก์ไปยังบทความ “วิธีเลือกโรงงาน OEM ให้ได้มาตรฐาน”)

5. ต้นทุนการผลิตแบบไหนถูกกว่ากัน?

คำตอบ : ตอบยาก ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ประเภทสินค้า, จำนวนการผลิต, คุณภาพวัตถุดิบ, เทคโนโลยีที่ใช้ แต่โดยทั่วไป :

ระยะสั้น รับผลิตมักจะถูกกว่า เพราะไม่ต้องลงทุนก้อนใหญ่
ระยะยาว หากผลิตจำนวนมากและขายดี การผลิตเองอาจจะคุ้มทุนและให้กำไรต่อหน่วยมากกว่า แต่ก็ต้องรับความเสี่ยงสูงกว่า

6. อยากเปลี่ยนจากรับผลิตเป็นผลิตเอง ต้องเตรียมตัวอย่างไร?

คำตอบ : การเปลี่ยนจากรับผลิตเป็นผลิตเองเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ต้องเตรียมตัวให้ดี :

วางแผนธุรกิจ กำหนดเป้าหมาย วางแผนการเงิน การตลาด การผลิต
ศึกษาข้อมูล หาความรู้เกี่ยวกับการผลิต การบริหารโรงงาน กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
เตรียมเงินทุน คำนวณค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงงาน ซื้อเครื่องจักร จ้างพนักงาน
หาแหล่งเงินทุน เตรียมเอกสารเพื่อขอกู้ธนาคารหรือหานักลงทุน
สร้างทีม หาผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิต วิศวกร ช่างเทคนิค
ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป อาจเริ่มจากการผลิตเองบางส่วน แล้วค่อย ๆ ขยาย

7. การผลิตเอง ควบคุมคุณภาพได้ดีกว่าจริงหรือ?

คำตอบ : จริงในแง่ที่ว่าเราสามารถควบคุมกระบวนการผลิต วัตถุดิบ และมาตรฐานได้เองทุกขั้นตอน แต่การควบคุมคุณภาพให้ได้ดีนั้น จำเป็นต้องมีความรู้ ประสบการณ์ และระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ หากขาดสิ่งเหล่านี้ การผลิตเองก็อาจทำให้คุณภาพแย่กว่าการจ้างผู้เชี่ยวชาญผลิตก็เป็นได้

8. จ้างผลิตสินค้า ใช้เวลานานไหมกว่าจะได้สินค้า?

คำตอบ : ระยะเวลาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทสินค้า ความซับซ้อน กระบวนการผลิต จำนวนที่สั่งผลิต คิวงานของโรงงาน แต่โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือน หรืออาจเร็วกว่าหรือช้ากว่านั้น ควรสอบถามและทำสัญญากับโรงงานให้ชัดเจน

9. ถ้าสินค้าที่รับผลิตมามีปัญหา เคลมได้ไหม?

คำตอบ : โดยปกติแล้ว โรงงาน OEM จะมีการรับประกันสินค้า หากสินค้ามีปัญหาที่เกิดจากกระบวนการผลิต สามารถเคลมกับโรงงานได้ แต่เงื่อนไขการเคลมจะแตกต่างกันไปในแต่ละโรงงาน ควรอ่านสัญญาและเงื่อนไขการรับประกันให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ

10. ผลิตเองทั้งหมด ดีกว่าการจ้าง Outsource บางส่วนหรือไม่?

คำตอบ : ไม่เสมอไป การผลิตเองทั้งหมดอาจไม่คุ้มค่า หากกระบวนการผลิตบางส่วนต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางสูง หรือเครื่องจักรราคาแพง การจ้าง Outsource (ผู้เชี่ยวชาญภายนอก) ในส่วนนั้นๆ อาจประหยัดต้นทุนและได้คุณภาพที่ดีกว่า เช่น การจ้าง Outsource ออกแบบบรรจุภัณฑ์, การจ้าง Outsource ผลิตชิ้นส่วนบางอย่าง

บทความที่น่าสนใจ “รับผลิต” หรือ “ผลิตเอง”

สำหรับใครที่กำลังวางแผนอยากเปิดร้านขายชากาแฟ อยากเปิดร้านน้ำ และกำลังมองหาวัตถุดิบผงชา ผงกาแฟโบราณ ที่มีคุณภาพให้กลิ่นหอมและมีรสชาติที่เข้มข้น สามารถสั่งซื้อได้ในราคาที่ถูก แถมมีราคาส่ง ราคายกลังให้อีกด้วย ติดต่อโรงงานชา 20 kg ของเราได้เลย

เพราะโรงงานชา 20 kg เราเป็นโรงงานที่จำหน่ายวัตถุดิบผงชา ให้กับร้านชากาแฟ จำหน่ายทั้งในราคาปลีก ราคาส่ง รวมถึงขายส่งผงชาราคาถูก ราคายกลัง ให้กับผู้ที่ต้องการผงชาปริมาณสูง ตลอดจนไปถึงรับติดแบรนด์ให้กับผู้ที่สั่งครบ 60 กิโลกรัมขึ้นไป